
ผู้ผลิตเหล็กของอินเดีย JSW Steel อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับบริษัท JFE Steel Corporation ของญี่ปุ่น เพื่อขายหุ้น 50% ในบริษัท Bhushan Power and Steel Ltd (BPSL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ JSW ถือหุ้นทั้งหมด ให้กับ JFE ในมูลค่าประมาณ 150,000-160,000 ล้านรูปี (1.7-1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น
ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ และจะนับเป็นความร่วมมือครั้งที่สองระหว่าง JFE และ JSW ต่อจากโครงการ JSW JFE Electrical Steel ในรายงานระบุเพิ่มเติมว่า รายได้จากการขายหุ้นในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อลดหนี้หรือสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจของ JSW โดยในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา JSW Steel มีหนี้สุทธิอยู่ที่ 791.53 พันล้านรูปี และมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ( net debt-to-Ebitda ratio) อยู่ที่ 2.97 เท่า
มีรายงานว่าการเจรจาความร่วมมือใหม่นี้เริ่มต้นมามากว่าหนึ่งปีแล้ว แต่ต้องล่าช้าออกไปเนื่องจากกระบวนการล้มละลายของ BPSL ที่ยืดเยื้อ ซึ่งกรณีดังกล่าวสิ้นสุดลงเมื่อต้นปีนี้ หลังจากที่ศาลฎีกา (Supreme Court (SC)) อินเดีย มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 กันยายน อนุมัติให้ JSW เข้าซื้อกิจการ BPSL ในมูลค่า 197,000 ล้านรูปี
คำตัดสินดังกล่าวได้เป็นการพลิกกลับคำพิพากษาเดิมของศาลฎีกา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่เคยเพิกถอนแผนการฟื้นฟูกิจการของ JSW (ที่ได้รับอนุมัติครั้งแรกในปี 2019) และสั่งให้ BPSL เข้าสู่กระบวนการชำระบัญชี คำสั่งนี้ถือเป็นการพลิกกลับทางกฎหมายที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเหล็กของอินเดีย
ความร่วมมือครั้งใหม่นี้อาจช่วยเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีให้กับ JSW และเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กมูลค่าสูงโดยเฉพาะเหล็กเกรดสูง ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และไฟฟ้า (high-grade automotive) และเหล็กไฟฟ้า (electrical steels) ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวนี้ยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ JFE ที่ต้องการขยายฐานในอินเดียผ่านการร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์ แทนการลงทุนโดยตรงในโครงการ
สองบริษัทนี้ได้เพิ่มความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือนกุมภาพันธ์ JSW และ JFE ได้ร่วมกันเข้าซื้อกิจการ thyssenkrupp Electrical Steel India (tkES India) ผ่านบริษัทร่วมทุน JSW JFE Electrical Steel (J2ES) โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมือง Nashik ซึ่งผลิตเหล็กไฟฟ้า (Grain-Oriented Electrical Steel: GOES) โดยทั้งสองบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ 50% โดยมูลค่าการเข้าซื้ออยู่ที่ 71,000 ล้านเยน หรือประมาณ 457 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา J2ES ประกาศว่าจะลงทุนเพิ่มอีก 58.45 พันล้านรูปี เพื่อขยายกำลังการผลิตที่โรงงาน GOES ในเมือง Vijayanagar รัฐ Karnataka เป็น 100,000 ตันต่อปี จาก 62,000 ตันต่อปี โดยคาดว่าโรงงานจะเริ่มเดินเครื่องในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2028